Last updated: 27 ก.ค. 2565 | 718 จำนวนผู้เข้าชม |
ญี่ปุ่น (日本国)เป็นประเทศหมู่เกาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออก ตั้งอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิก ทางตะวันตกติดกับคาบสมุทรเกาหลี และสาธารณรัฐประชาชนจีน ตัวอักษรคันจิของชื่อญี่ปุ่นแปลว่าถิ่น กำเนิดของดวงอาทิตย์ หรือที่เคยได้ยินกันจนชินหูก็คือ ดินแดนแห่งอาทิตย์อุทัย มีเนื้อที่กว่า 377,930 ตารางกิโลเมตร นับเป็นอันดับที่ 61ของโลก ประกอบไปด้วยเกาะน้อยใหญ่กว่า 3,000 เกาะ เกาะที่ใหญ่ที่สุดก็คือเกาะฮอนชู ฮอกไกโด คิวชู และชิโกะกุ ตามลำดับ
สถานที่ท่องเที่ยว
ย่านชิบูยะ(渋谷)
แหล่งช้อปปิ้ง ร้านอาหาร คาเฟ่ บาร์ คลับ ไลฟ์เฮ้าส์ที่โด่งดังที่สุดในญี่ปุ่นและที่ท่องเที่ยวของเหล่าวัยรุ่นญี่ปุ่น แม้แต่นักท่องเที่ยวยังต้องมาเยือนที่ย่านนี้ เพราะที่นี่เป็นทั้งแลนด์มาร์คที่โดดเด่นอย่าง ทางม้าลายยักษ์ข้ามแยก ใจกลางย่าน รูปปั้นสุนัขฮาจิโกะ หรือแม้แต่สวนสาธารณะโยโยหงิอันเป็นที่พักผ่อนย่อนใจ หรือในเดือนมีนาคม-เมษายนก็จะมีดอกซากุระบานที่นี่ สามารถมาปิคนิกได้เช่นกัน
Tokyo Tower
หอคอยที่การสื่อสารของสถานีวิทยุและโทรทัศน์ของประเทศ เลียนแบบมาจากหอไอเฟลของฝรั่งเศส สูง 333 เมตร มีจุดชมวิวที่ความสูง 2 ระดับ คือ จุดชมวิว 150 เมตร และจุดชมวิว 250 เมตร ในบริเวณชั้นที่ 1 มีส่วนของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ โอเชี่ยนเวิลด์ (Ocean World) ชั้นที่ 3 เป็นพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้ง ชั้นที่ 4 เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะ (Art Gallery) และมีร้านค้า ร้านอาหารให้บริการอยู่บนหอคอยแห่งนี้ด้วย ถือเป็นแลนด์มาร์คของประเทศที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด
ตลาดปลาซึกิจิ(築地市場)
ตลาดกลางแลกเปลี่ยนปลาและสัตว์น้ำขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ และยังเป็นตลาดปลาที่ใหญ่ที่สุดในโลก แต่ละวันมีการซื้อ-ขายปลาและสัตว์น้ำในมากกว่า 2000 ตัน เปิดตั้งแต่ตี 5 ถึง บ่าย 2 โมงทุกวัน หากจะมาต้องมาต่อคิวตั้งแต่เนิ่นๆระหว่าง 05:25-06:15 น. เพื่อชมการประมูลปลาที่มีขึ้นทุกวัน และจำกัดนักท่องเที่ยวเข้าชมเพียง 120 คนต่อวันเท่านั้น ในตลาดมีร้านอาหารทะเล ร้านซูชิมากมายซึ่งรับประกันความสดใหม่อย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังขายผักและผลไม้อีกด้วย
พิพิทธภัณฑ์จิบลิ(三鷹の森ジブリ美術館)
เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงผลงานจากอะนิเมะของสตูดิโอจิบลิที่คนไทยน่าจะรู้จักกันดีไม่มากก็น้อย เพราะอนิเมะ(ชื่อเรียกการ์ตูนในญี่ปุ่น)ของที่นี่เคยผ่านโรงหนังที่เมืองไทยมาแล้วหลายเรื่อง เช่น สุสานหิ้งห้อย(火垂るの墓)อาร์ริเอตี้(借りぐらしのアリエッティ) โปเนียว(崖の上のポニョ) ฯลฯ ซึ่งชั้นหนึ่งเป็นงานแสดงประวัติและหลักการทางวิทยาศาสตร์ของอะนิเมะ เช่น การแสดงที่ใช้หุ่นตัวละครของจิบลิที่มีท่าทางแตกต่างกันเล็กน้อย เรียงเป็นวงกลมบนโต๊ะที่หมุนได้ เมื่อโต๊ะหมุนในจังหวะที่สอดคล้องกับแสงกะพริบจะทำให้มองเห็นเป็นภาพเคลื่อนไหว บนชั้นสองมีห้องซึ่งตกแต่งเลียนแบบสตูดิโออะนิเมะ มีภาพสเกตช์ สตอรี่บอร์ด อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้ในการสร้างอะนิเมะ และคำอธิบายขั้นตอนต่าง ๆ ในการสร้างภาพยนตร์อะนิเมะ ตั้งแต่การสเกตช์ภาพ การสร้างสตอรี่บอร์ด คีย์เฟรม การลงสี ฯลฯ
การศึกษา
ในด้านการศึกษา ประเทศญี่ปุ่นจะมีความคล้ายกันกับประเทศไทย ซึ่งหากนักศึกษาชาวต่างชาติต้องการจะเรียนต่อที่ญี่ปุ่นในระดับมหาวิทยาลัยขึ้นไป จะต้องจบการศึกษาในระดับโรงเรียนมาแล้ว 12 ปีเป็นขั้นต่ำ หรือจบในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย และต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไป ซึ่งในสามารถศึกษาต่อในระดับสูงได้ดังนี้
-มหาวิทยาลัย แบ่งออกเป็น มหาวิทยาลัยรัฐบาล มหาวิทยาลัยท้องถิ่น และเอกชน
ในประเทศญี่ปุ่นจะกำหนดหลักสูตรและระยะเวลา คือ ระดับปริญญาตรีจะใช้เวลา 4 ปี ซึ่งสำหรับนักศึกษาต่างชาติที่มีความประสงค์จะเรียนต่อต้องมีผลสอบวัดระดับ JLPT(Japanese Language Proficiency) ในระดับ N1 หรือ หากเรียนกับสถาบันสอนภาษาญี่ปุ่นที่มีเครือข่ายมหาวิทยาลัยก็อาจจะใช้วิธีสอบชิงทุนหรือยื่นผลการสอบเพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้เช่นกัน
-วิทยาลัยหลักสูตรระยะสั้น
จะมีเฉพาะบางมหาวิทยาลัยที่มีในส่วนของโครงการแลกเปลี่ยนนักเรียนกัน
โดยการศึกษาหลักสูตรระยะสั้นในญี่ปุ่นมี 2 รูปแบบ คือ
1."โครงการแลกเปลี่ยนนักศึกษา" ผ่านข้อตกลงความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัย ฯลฯ
2. โครงการอื่นๆที่ไม่ได้ผ่านข้อตกลงเรื่องความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัย
"โครงการแลกเปลี่ยนนักศึกษา" หมายถึง
ระบบที่นักศึกษาต่างชาติซึ่งกำลังศึกษาอยู่ในสถานศึกษาในประเทศของตน มาศึกษาในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ณ สถานศึกษาในญี่ปุ่นที่มีข้อตกลงความร่วมมือระหว่างกัน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ได้หน่วยกิตเพื่อโอนไปยังสถาบันที่ตนเรียน
-บัณฑิตวิทยาลัย -หลักสูตรระดับปริญญาโท หรือเรียกกันว่า"หลักสูตรปริญญาเอกภาคต้น" ใช้ระยะเวลาเรียน 2 ปี
-หลักสูตรระดับปริญญาเอก หรือ "หลักสูตรปริญญาเอกภาคปลาย" ใช้ระยะเวลาเรียน 3 ปี
-นักศึกษาวิจัย จัดเป็นนักศึกษารูปแบบพิเศษ กล่าวคือ
1.เป็นผู้ที่มีความประสงค์จะมาทำวิจัยระยะสั้นโดยไม่รับวุฒิการศึกษา
2.เป็นนักศึกษาต่างชาติที่เข้ามาศึกษาในระยะสั้นตามข้อตกลงของมหาวิทยาลัย
3.ผู้ที่เข้าศึกษาเพื่อเตรียมความสำหรับการเรียนในระดับบัณฑิตวิทยาลัย ซึ่งบางแห่งก่อนจะเข้าศึกษาต่อนั้นจะต้องเป็นนักศึกษาวิจัยก่อน
-วิทยาลัยอาชีวศึกษา(専門)
หลักสูตรวิชาชีพชั้นสูงหลักสูตร 2 ปี(บางที่จะเรียน 3 ปีขึ้นอยู่กับสถาบันนั้นๆ) ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นหลักสูตรเฉพาะที่นักเรียนสนใจจะเรียน เน้นใช้ได้จริงและสามารถนำไปประกอบอาชีพในด้านที่ตนเองถนัดได้เลย โดยจะมีตั้งแต่เสริมสวย แฟชั่นดีไซน์ ดนตรี ออกแบบอัญมณี จนไปถึงเสริมสวยสำหรับสัตว์เลี้ยงเลยก็ได้
-วิทยาลัยเทคนิค(高専)
เป็นสถาบันอุดมศึกษาที่เป็นหลักสูตรต่อเนื่อง 5 ปีหลังจบการศึกษาระดับมัธยมต้น (5 ปีครึ่งสำหรับสาขาพาณิชย์นาวี)
โดยส่วนใหญ่แล้วนักศึกษาต่างชาติจะเข้าศึกษาต่อในวิทยาลัยเทคนิค หลังจากจบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย โดยเข้าศึกษาในชั้นปีที่ 3 ของวิทยาลัยเทคนิค และศึกษาต่ออีก 3 ปี จะได้รับวุฒิ "อนุปริญญา" โดยนักศึกษาต่างชาติจำนวนมากที่จบการศึกษาจากวิทยาลัยเทคนิคเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยของรัฐ หรือเข้าทำงานในบริษัท
โดยส่วนใหญ่จะเปิดสาขาวิชาที่เรียน เช่น
- Mechanical Engineering
- Electrical and Electronics Engineering
- Architecture, Civil and Environmental Engineering
- Control and System Engineering, Information and Telecommunication Engineering
- Chemistry and Biochemistry, Material Science
- Shipping Technology
สกุลเงินที่ใช้
ญี่ปุ่นใช้สกุลเงิน เยน (JPY) อัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 30 – 36 บาท
เวลาในการเดินทาง
เดินทางจากประเทศไทยไปญี่ปุ่นใช้เวลาประมาณ 6 – 8 ชั่วโมง (ไม่รวมเวลาต่อเครื่อง)
สภาพภูมิอากาศ
มี 4 ฤดูหลัก ที่มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน คือ
ฤดูใบไม้ผลิ : (มีนาคม-พฤษภาคม) อากาศอบอุ่น อุณหภูมิโดยเฉลี่ยประมาณ 13-25 องศาเซลเซียส
ฤดูร้อน : (มิถุนายน-สิงหาคม) อากาศร้อนชื้นโดยมีช่วงฤดูฝนสั้น ๆ ประมาณ 1 เดือน ในช่วงต้นฤดู อุณหภูมิโดยเฉลี่ยประมาณ 30-35 องศาเซลเซียส
ฤดูใบไม้ร่วง :(กันยายน-พฤศจิกายน) อากาศอบอุ่น โดยมีพายุไต้ฝุ่นมากในช่วงเดือนกันยายน อุณหภูมิโดยเฉลี่ยประมาณ 22-27 องศาเซลเซียส
ฤดูหนาว : (ธันวาคม-กุมภาพันธ์) อากาศหนาว มีหิมะตกมากทางภาคเหนือของประเทศและฝั่งทะเลญี่ปุ่น ส่วนทางใต้และฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก อากาศจะอบอุ่นกว่า อุณหภูมิโดยเฉลี่ยประมาณ 5-7 องศาเซลเซียส
ภาษา
ภาษาทางการของที่นี่ใช้ภาษาญี่ปุ่นเป็นหลัก และอักษรที่ใช้นั้นตัวเขียนเรียกกันว่า 平仮名(ฮิรางานะ) 片仮名(คาตาคานะ)ローマ字(โรมันจิ)และ漢字(คันจิ)
เวลา
เวลาของญี่ปุ่นเร็วกว่าไทย 2 ชั่วโมง
จุดเด่น
- เทคโนโลยีระดับสูงและระบบเศรษฐกิจที่พัฒนาแล้ว
- วัฒนธรรมไม่เหมือนใครกับความเป็นสากล
- การศึกษาที่หลากหลายให้เลือกที่เหมาะกับสายอาชีพและความฝันที่คุณตั้งเป้าหมายไว้
27 ก.ค. 2565
27 ก.ค. 2565
27 ก.ค. 2565